อัตราค่าบริการนี้รวม
ค่าที่พักห้องละ 2 ท่าน ตามโรงแรมที่ระบุไว้ในรายการ หรือ ระดับเทียบเท่า
ค่าอาหาร ค่าเข้าชม และ ค่ายานพาหนะทุกชนิด ตามที่ระบุไว้ในรายการทัวร์ข้างต้น
ค่าใช้จ่ายของมัคคุเทศก์ และเจ้าหน้าที่บริษัท ฯ ที่คอยอำนวยความสะดวกทุกท่านตลอดการเดินทาง
ค่าน้ำหนักสัมภาระท่านละไม่เกิน 15 กิโลกรัม และ ค่าประกันวินาศภัยเครื่องบินตามเงื่อนไขของแต่ละสายการบินที่มีการเรียกเก็บ
ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทาง คุ้มครองในวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท ในกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินท่านละ 500,000 บาทตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ (หากอายุ 76 ปีขึ้นไป ค่าประกันอุบัติเหตุ ระหว่างการเดินทางคุ้มครอง 50%) ในกรณีเด็กเริ่มคุ้มครองตั้งแค่อายุ 6 เดือนเป็นต้นไป
ค่า Vat 7%
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และเอกสารต่างด้าวต่างๆ
ค่าธรรมเนียมชาวต่างชาติ
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือจากรายการระบุ อาทิเช่น ค่าอาหาร - เครื่องดื่ม นอกเหนือจากรายการ ค่าซักรีดค่าโทรศัพท์ เป็นต้น
ค่าภาษีทุกรายการคิดจากยอดบริการ, ค่าภาษีเดินทาง (ถ้ามีการเรียกเก็บ)
ขั้นตอนและเงื่อนไขการใช้สิทธิ์ “ทัวร์เที่ยวไทย”
1. ผู้ใช้สิทธิ์จะต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันลงทะเบียน นักท่องเที่ยว 1 คน ใช้สิทธิ์ได้ 1 สิทธิ์ ผู้ที่ได้รับ โดยสิทธิ์จะได้รับการยกเว้นภาษีต่าง ๆ โดยไม่นำมาคำนวณในการยื่นภาษี ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ 40 % สูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท
2. สามารถจองโปรแกรมที่ท่านสนใจพร้อมวันที่เดินทางและข้อมูลส่วนตัว ที่ผูกกับแอพฯ “เป๋าตัง” ได้แก่ ชื่อ,เลขที่บัตรประชาชน, หมายเลขโทรศัพท์ กับทางบริษัททัวร์ และส่งสำเนาบัตรประชาชน ให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันการจอง
3. หลังจากนั้น พนักงานขายจะทำการจองผ่านระบบแล้ว จะมี POP UP แสดงในแอพฯ “เป๋าตัง” ของลูกค้าและแจ้งให้ชำระเงินหลังหักส่วนลด 40%(แต่ไม่เกิน 5,000 บาท) เต็มจำนวน
4. ตรวจสอบความถูกต้อง ชื่อ-นามสกุลผู้เดินทาง โปรแกรม วันเดินทาง ราคา หากถูกต้อง ให้ชำระเงิน ภายในเวลา 23.59 น. ของวันที่จอง
5. หลังชำระเงินแล้วถือว่าการจองเป็นที่สิ้นสุด ไม่สามารถยกเลิก/คืนเงินได้ทุกกรณี ยกเว้นตามนโยบาย/มาตรการของรัฐ
หมายเหตุ :
*วันเดินทางจริงลูกค้าต้องนำโทรศัพท์ที่มีแอพฯ “เป๋าตัง” ผูกกับเบอร์ที่ใช้สิทธิ์ทัวร์เที่ยวไทยติดตัวตลอดการเดินทาง
**สแกนหน้า 2ครั้งกับถุงเงินของหัวหน้าทัวร์ ณ จังหวัดเริ่มต้นของการเดินทางและเช้าวันสุดท้ายของวันเดินทาง
***ต้องเดินทางตามเส้นทางที่กำหนดเท่านั้นไม่สามารถออกนอกเส้นทางได้
****ไม่สามารถใช้สิทธิแทนกันได้
*****ใช้สิทธิก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 10 วัน
ข้อแนะนำสำหรับการเดินทาง ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19
1. ผู้ร่วมเดินทาง ต้องใส่หน้ากากอนามัย ตลอดการเดินทาง
2. ก่อนขึ้น รถทุกครั้ง ทางบริษัทฯ จะมีมาตรการวัดไข้ และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮล์
3. ประตูรถ เปิด-ปิด ประตูเดียว
4. มาตราการเว้นระยะห่างที่นั่งบนรถโค้ช / รถตู้
5. ไกด์และพนักงานขับรถ ได้รับการฉีดวัคซีน และมีการตรวจ Covid แล้ว
6. ขออนุญาตสงวนสิทธิ์รับลูกทัวร์ที่ฉีดวัคซีน AZ 2 เข็ม / Sinovac หรือ Sinopharm 2 เข็ม หรือในกรณีที่ได้รับวัคซีนยังไม่ครบ 2 เข็ม ต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ภายใน 72 ชม.ก่อนการเดินทาง จึงจะสามารถเดินทางได้ หรือเพิ่มเติมตามมาตรการที่จังหวัดที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวกำหนด
7. กรุณากรอกแบบฟอร์ม ต.๘-คค (ทางบริษัทฯจัดเตรียมไว้ให้) และส่งคืน ให้เจ้าหน้าที่ บนรถ
สิ่งที่ควรนำไปด้วย ยาประจำตัว, กล้องถ่ายรูป, อุปกรณ์กันแดด, ร่มพับ, ชุดสุภาพสำหรับเข้าวัด, รองเท้าที่สวมใส่สบาย
หมายเหตุ :
1. การเดินทางในแต่ละครั้งจะต้องมีผู้โดยสารจำนวน 6 ท่านขึ้นไป ถ้าผู้โดยสารไม่ครบจำนวนดังกล่าวทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาหรือเลื่อนการเดินทาง หรือยกเลิกการเดินทาง
2. ขอสงวนสิทธิ์การเก็บค่าน้ำมันและภาษีสนามบินทุกแห่งเพิ่ม หากสายการบินมีการปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง
3. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเที่ยวบิน โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอันเนื่องจากสาเหตุต่างๆ
4. รายการและราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากสภาวะอากาศ, การเมือง, สายการบิน และอัตราแลกเปลี่ยนโดยทางบริษัทฯ จะคำนึงถึงประโยชน์และความปลอดภัยของท่านเป็นสำคัญที่สุด
5. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อกรณีความล่าช้าจากสายการบิน, ภัยธรรมชาติ, การยกเลิกเที่ยวบิน, การนัดหยุดงาน, การประท้วง, การก่อจลาจล ซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัทฯ
6. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดสิ่งของสูญหาย อันเนื่องเกิดจากความประมาทของท่าน, เกิดจากการโจรกรรม และ อุบัติเหตุจากความประมาทของนักท่องเที่ยวเอง
7. ตั๋วเครื่องบินเป็นตั๋วกรุ๊ปราคาพิเศษ หากท่านไม่เดินทางไปกลับพร้อมคณะไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ไม่สามารถนำมาเลื่อนวันเดินทาง หรือคืนเงินได้
เมื่อท่านตกลงชำระเงินมัดจำหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯ แล้ว ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด
เดินทางตู้ละ 8 ท่าน
สัมผัสลมหนาวก่อนใคร พร้อมเที่ยวบนดอยยอดนิยม ณ 2 จังหวัดใหญ่ภาคเหนือ
-"บ้านแม่กำปอง" หมู่บ้านสุดชิค จุดหมายเช็คอิน ผู้มาเยือนเมืองเชียงใหม่
-“วัดพระธาตุดอยคำ” บนบานทันใจ วิวสวยอลังฯ
-"วัดบ้านเด่นฯ" พลังศรัทธาคนเมืองและชาวเขา ตกแต่งด้วยศิลปะล้านนาที่งดงาม
-"โครงการหลวงเกษตรอ่างขาง" ยิ่งสูงยิ่งหนาว สวนสวย พืชเมืองหนาวหายาก
-"วัดท่าตอน”สวยงาม ทั้งวิว และ พระเจดีย์
-"ดอยแม่สลอง"ธรรมชาติกับประวัติศาสตร์
-"ไร่ชาวังพุดตาล"ไร่ชาเรียงรายเป็นขั้นบันไดไว้ตามไหล่เขาอย่างสวยงาม โอบล้อมด้วยภูเขาเขียวขจี
-"วัดร่องเสือเต้น" วิหารอ่อนช้อย ทรงคุณค่า รังสรรค์ฝีมือด้วยศิลปินชาวบ้าน ลูกศิษย์ของ อาจารย์เฉลิมชัย
โปรดพิจารณาความคุ้มค่า
ค่าใช้จ่ายมัคคุเทศก์
1.พาหนะ 8,789 บาท
ค่าเครื่องบินไกด์ 1 = 2149+2249=4,389 บ.
ค่าตั๋วรถทัวร์ไกด์2 ,3 (1600*2คน) =3200 บ.
ค่าแท็คซี่ไกด์ 400 บ.*3 คน =1200 บ.
2.ที่พัก 3,100 บาท
ที่พักไกด์ 2/3 เดินทางล่วงหน้า =800 บ.
ที่พักคืนแรก 1,200 บ.
ที่พักคืนที่ 2 1,100 บ.
3.ค่าอาหาร 2,200 บาท
ค่าอาหารไกด์ 2,3 เดินทางล่วงหน้า 200 บ.*2 คน=400 บ.
ค่าอาหารไกด์ระหว่าทำทัวร์ (120บ*5มื้อ)*3คน =1800 บ.
4.ค่าเบี้ยเลี้ยงไกด์ 14,100 บาท
เบี้ยเลี้ยงไกด์ 2,3 เดินทางล่วงหน้า 300 บ.*2คน= 600บ.
เบี้ยเลี้ยงไกด์ระหว่างทำทัวร์ 1500บ.*3คน *3วัน = 13,500 บ.
5. ประกันไกด์ 30 บ.*3 คน = 90 บาท
ยอดรวมค่าใช้จ่าย,มัคคุเทศก์ 28,279 บาท
ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด
1.ค่าธรรมเนียม 60 บ.*16 คน 960 บาท
2.ค่าประกัน 30บ.*16 คน 480 บาท
2.1.ค่ารถสองแถวแม่กำปอง ท่านล่ะ20 บาท
2.2.ค่าธรรมเนียมดอนอ่างขาง ท่านละ 40 บาท
(ไม่มีถุงเงิน)
3.ทิปโรงแรม 200บ.*2 โรงแรม 400 บาท
4.ทิปคนขับ 500 บ. * 2คน 1,000 บาท
5.ค่าเครื่องดื่มและของว่าง 100 บ.*16 คน 1,600 บาท
6.ค่าอุปกรณ์ทำทัวร์ 80 บ.*16 คน 1,280 บาท
ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดรวม 5,720 บาท
ค่าใช้จ่ายไกด์ 28,279 บาท
ค่าเบ็ดเตล็ด 5,720 บาท
รวม 33,999 บาท
เฉลี่ย/คน 1,889 บาท
ค่าVAT 7 % 787 บาท
ค่าใช้จ่ายไกด์+ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด +VAT 7% = 2,676 บาท
0
คณะเดินทางพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานกรุงเทพฯ(ดอนเมือง) (กรุณานำบัตรประชาชนไปแสดงด้วย)
ออกเดินทางสู่ จ.เชียงใหม่ โดยสายการบินนกแอร์ .เที่ยวบินที่ DD1 DMK-CNX 06.50-08.00 น.
ทีมงานคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระ ณ สนามบินเชียงใหม่ เปลี่ยนการเดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศ
เดินทางสู่ บ้านแม่กำปอง เป็นหมู่บ้านเก่าแก่หมู่บ้านหนึ่ง มีอายุมากกว่า 100 ปี ลักษณะสำคัญของหมู่บ้าน คือ มีลำห้วยไหลผ่านหมู่บ้านหลายสาย ซึ่งเป็นลำห้วยสาขาของห้วยแม่กำปอง ตั้งแต่ในอดีตบริเวณใกล้ลำห้วยจะพบดอกไม้ชนิดหนึ่งมีสีเหลืองแดงผสมกัน มีขนาดเล็ก ชาวบ้านเรียกชื่อดอกไม้นี้ว่า “ดอกกำปอง”
บริการอาหารกลางวัน(1) ณ ร้านอาหารสวนอาหารบัว
เดินทาขึ้นสู่ “วัดพระธาตุดอยคำ” วัดที่มีชื่อเสียงด้านการขอพร บนบาน หลวงพ่อทันใจ เช่นถูกหวยรางวัลใหญ่ การงานสำเร็จ โดยจะถวายดอกมะลิเพื่อแก้บน (ความเชื่อส่วนบุคคล) และ บนวัด มีจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบเมืองเชียงใหม่อีกด้วย จากนั้นเข้าชม" วัดบ้านเด่นสะหรีศรีเมืองแกน" เชียงใหม่ ชมสิ่งก่อสร้างที่เกิดขึ้นจากพลังศรัทธาของคนเมืองและชาวเขา ตกแต่งด้วยศิลปะล้านนาที่งดงาม นอกจากนั้นยังแวดล้อมด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงาม และที่ตั้งของวัดยังอยู่ในเขตเมืองเก่าโบราณ ที่เรียกว่า เมืองแกน ชาวบ้านเลยเรียกชื่อวัดนี้เต็มๆ ว่า "วัดเด่นสะหรีศรีเมืองแกน" และภายในวัดยังเป็นสถานที่นมัสการพระธาตุประจำปีเกิด 12 ราศี ตามความเชื่อของชาวล้านนา อีกด้วย
บริการอาหารค่ำ(2) ณ ร้านอาหารหมอกหลวง เชียงดาว
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรมแทนเจอรีน ฝาง
ตื่นรับอรุณพร้อมบริการอาหารเช้า(3) ณ ห้องอาหารโรงแรม
หลังอาหารอำลาที่พัก เก็บสัมภาระบนรถตู้คันเดิม
นำท่านชม โครงการหลวงเกษตรอ่างขาง สถานีที่สำคัญ ในการวิจัยพืชเขตหนาวโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม้ผลเขตหนาว พืชผัก สมุนไพร ไม้ดอกไม้ประดับ กุหลาบสายพันธุ์ต่าง ๆ สมุนไพร ชาจีน ลินินงานถ่ายทอดเทคโนโลยีเกษตรบนพื้นที่สูง เป็นแหล่งวิชาการและเป็นศูนย์การเรียนรู้เป็นสถานที่ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ เกษตรกร นักศึกษาจากสถาบันและหน่วยงานต่าง ๆทั้งในและต่างประเทศงานพัฒนาและส่งเสริมอาชีพแก่เกษตรกรชาวเขา โดยมีส่วนราชการต่าง ๆร่วมดำเนินงานในรูปของคณะทำงานศูนย์พัฒนาโครงการหลวงอ่างขาง จากนั้น นำชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเขาที่ บ้านขอบด้งนอแล พร้อมชมทิวทัศน์อันสวยงามบนยอดดอย
บริการอาหารกลางวัน(4) ณ ร้านอาหารเจ๊เหมยสุกี้ยูนนานและอาหารจีน
นำท่านชม "พิพิธภัณฑ์โรงงานหลวงที่ ๑ (ฝาง)" ภายในอาคาร แฝงแนวคิดในการออกแบบที่สะท้อนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน ควบคู่กับการประหยัดพลังงาน จัดนิทรรศการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมบนพื้นที่สูงภาคเหนือแบบบูรณาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 จากนั้นนำท่านเดินทางสู่“วัดท่าตอน” วัดที่มีความสวยงาม ทั้งวิว และ พระเจดีย์ เป็นวัดประจำอำเภอ ตั้งอยู่ที่บ้านท่าตอน ตำบลท่าตอน เป็นวัดที่มีทิวทัศน์งดงาม อยู่บนไหล่เขา หากเราขับรถขึ้นไปก็จะเรียงรายด้วยศาสนวัตถุสิ่งก่อสร้าง เริ่มจากชั้นที่1 ไปเรือยๆ ตามถนนทอดยาวขึ้นเขาเป็นชั้น ๆ รวม 9 ชั้น
เดินทางถึงที่พักโรงแรมแม่สลอง วิลล่า
หลังจัดเก็บสัมภาระ บริการอาหารค่ำ(5) ณ ห้องอาหารภายในที่พัก
บริการอาหารเช้า(6) ณ ห้องอาหารของรีสอร์ท
หลังอาหารอำลาที่พัก พร้อมเก็บสัมภาระบนรถตู้คันเดิม
ชมบรรยากาศโดยรอบของ ดอยแม่สลอง สัมผัมความหนาวเย็น ป่าเขา และธรรมชาติ ดอยแม่สลองเป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนชาวจีนฮ่อ แห่งกองพล 93 ที่ตั้งหลักแหล่งบนดอยแห่งนี้มานาน ปัจจุบันชุมชนชาวจีนบนดอยแม่สลอง มีชื่อว่า หมู่บ้านสันติคีรี มีทัศนียภาพที่สวยงามและอากาศ เย็นสบายตลอดปี รายได้หลักมาจากการปลูกชาอู่หลง -ให้ท่าน"นมัสการพระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี" สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ “สมเด็จย่า” ตั้งอยู่เป็นจุดสูงสุดของเทือกเขาดอยแม่สลอง ท่านสามารถชมทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยเฉพาะในยามเย็น ขณะเดียวกัน องค์พระธาตุยังเด่นเป็นสง่า มองเห็นแต่ไกลเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างของดอยแม่สลอง -นำท่านชม "สุสานนายพลต้วน" บรรจุร่างนายพลต้วนซีเหวิน อยู่ภายในศาลาเก๋งจีนขนาดใหญ่ สีขาว พื้นปูหินอ่อน ด้านหลังแท่น บรรจุศพ มีภาพถ่าย เก่าแก่เกี่ยวกับประวัติและผลงาน ด้านหน้าเป็นลาดเนิน มีตัวอักษร "ต้วน" ภาษาจีน สามารถมองเห็นบ้านสันติคีรีในหุบต่ำลง ไปเบื้องล่าง เป็นจุดชม ทิวทัศน์ของหมู่บ้านที่ดีจุดหนึ่ง -จากนั้นเดินทางสู่"ไร่ชาวังพุดตาล"ที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งได้ปลูกชาเรียงรายเป็นขั้นบันไดไว้ตามไหล่เขาอย่างสวยงาม โอบล้อมด้วยภูเขาเขียวขจี ท่านสามารถพักผ่อนกินบรรยากาศอันหนาวเย็นและที่สำคัญได้มาสัมผัสวิถีชาวบ้านที่ตื่นแต่เช้าออกมาเก็บชากัน มาเรียนรู้กระบวนการรักษาคุณภาพของชา
บริการอาหารกลางวัน(7) แบบสเต็กหรือสปาเก็ตตี้ ท่านละ 1 รายการ ณ โอโซนฟาร์ม หลังอาหาร ท่านสามารถเลือกถ่ายรูปกับมุมสวยๆของฟาร์ม พร้อมเรียนรู้ขั้นตอนการปลูกเมล่อน,เชอรี่ไต้หวัน,มะเดื่อฝรั่ง หรือเลือกซื้อผลิดภัณฑ์จากทางฟาร์มได้ตามอัธยาศัย (ลงเลขผู้เสียภาษีใหม่ด้วย)
นำท่านชม วัดร่องเสือเต้น ชมวิหารสีน้ำเงินอันอ่อนช้อย ทรงคุณค่า รังสรรค์ฝีมือด้วยศิลปินชาวบ้าน “นายพุทธา กาบแก้ว หรือ สล่านก” ซึ่งเคยเป็นลูกศิษย์ของ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ปี พ.ศ. 2554 ไฮไลท์ของวัดร่องเสือเต้นอยู่ที่ "พระอุโบสถ" ภายนอกออกแบบด้วยศิลปะแบบไทยประยุกต์ ใช้โทนสีน้ำเงินตัดกับสีทอง ส่วนภายในเต็มไปด้วยจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพุทธประวัติ โดดเด่นด้วยลายเส้นอันอ่อนช้อย ได้เวลาอันสมควรนำท่านเลือกซื้อของฝากก่อนเดินทางเข้าสู่สนามบินเชียงราย
เดินทางกลับกรุงเทพโดยสายการบิน.นกแอร์ .เที่ยวบินที่ DD 107 CEI-DMK 19.45-21.00 น.
เดินทางถึง ท่าอากาศยานกรุงเทพฯ(ดอนเมือง) โดยสวัสดิภาพฯพร้อมความประทับใจ