9,900/ท่าน ชำระเพียง 60% เหลือเพียง 5,940 บาท
เงื่อนไขรายการนำเที่ยว
- ค่ารถตู้ปรับอากาศ VIP
- ค่าโรงแรมที่พัก 3 คืนตามรายการระบุ พักห้อง 2 – 3 ท่าน
- ค่าอาหาร 11 มื้อ ตามระบุในรายการ
- ค่าเข้าชมสถานท่องเที่ยวทั้งหมดตามรายการระบุ
- ค่ารถท้องถิ่นทั้งหมดตามรายการระบุ
- ค่ามัคคุเทศก์ คอยบริการและอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
- ค่าบริการของว่าง
- ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 %
- ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ท่านละไม่เกิน 1,000,000 บาท ตามเงื่อนไขกรมธรรม์
เที่ยวหนองคาย บึงกาฬ ถ้ำนาคาสืบตำนานรักพญานาคา”
รถตู้ VIP 5 วัน 4 คืน
✅ ออกเดินทางตั้งแต่ 6 ท่านขึ้นไป
✅ ค้นความลึกลับ "ถ้ำนาคา" เก็บภาพตื่นตา "บึงโขงหลง"
✅ สักการะ "วัดอาฮงศิลวาส" มหัศจรรย์ "สะดือแม่น้ำโขง"
✅ ขึ้นรถท้องถิ่นชมหินยักษ์รูปทรงเหมือนปลาวาฬที่ "หินสามวาฬ" ที่มีอายุกว่า75ล้านปี
✅ จากศรัทธาสู่สถาปัตยกรรม และ "วัดผาตากเสื้อ" พุทธสถานท่ามกลางธรรมชาติ
✅ ชิมอาหารเวียดนามสุดอร่อย ร้านดัง พร้อมช้อปปิ้ง สินค้าของฝากและอาหาร ที่ท่าเสด็จ
ค่าใช้จ่ายไกด์+คนขับ
วันที่ 1
ค่าอาหารกล่องไกด์กับคนรถ 120 บาท
ค่าเครื่องดื่มคนขับ+ไกด์ 20 บาท
วันที่ 2
ค่าอาหารไกด์+คนรถ 140 บาท
ค่าข้าวเหนียวหมูปิ้งขึ้นไปทานบนถ้ำนาคา 80 บาท
เครื่องดื่ม 20 บาท
ค่าอาหารกลางวัน เรือนไทย เสริมหลังจากลงมาแล้ว 120 บาท
ค่าห้องพักไกด์ ที่เรือนไทย 500 บาท
วันที่ 3
ค่าเครื่องดื่ม กาแฟ 24 บาท
ค่าห้อง The One 800 บาท
วันที่ 4
ค่าเครื่องดื่ม กาแฟ 24 บาท
ค่าห้อง รอยัลนครา 1100 บาท
วันที่ 5
ค่าเครื่องดื่ม กาแฟ 24 บาท
ค่าเบี้ยเลี้ยง 7500 บาท
ประกันไกด์ 25 บาท
ค่าใช้จ่ายลูกค้า
วันที่ 1
ค่าอุปกรณ์ออกทัวร์ 600 บาท
ค่าอาหารกล่อง 360 บาท
วันที่ 2
ค่าธรรมเนียมถ้ำนาคา 180 บาท
ค่าข้าวเหนียวหมูปิ้งขึ้นไปทานข้างบน 240 บาท
ค่าน้ำดื่ม ขึ้นไปบนถ้ำ 80 บาท
ค่าทิปไกด์ถ้ำนาคา 600 บาท
วันที่ 3
ค่ารถขึ้นภูทอก 150 บาท
ค่าธรรมเนียมสวนตาวัง 300 บาท
ค่ารถขึ้นหินสามวาฬ 500 บาท
ค่าทิปเบลล์ 100 บาท
วันที่ 4
ค่าธรรมเนียมพิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต 50*6 300 บาท
ค่าธรรมเนียมศาลาแก้วกู่ 20*6 120 บาท
วันที่ 5
ทิปคนขับรถ 100*6 600 บาท
ค่าของที่ระลึก หมวก 100*6= 600 บาท
Vat 7% 9900*6*7%= 4158 บาท
ประกัน 150
รวมยอด 19535 /6 เฉลี่ยท่านละ 3255
0
คณะท่านพร้อมกัน ณ จุดนัดหมาย มัคคุเทศก์ บริษัท ลัคซ์ชัวรี่ ฮอลิเดย์ จำกัด คอยให้การต้อนรับ เช็คชื่อติดกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ออกเดินทางสู่ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ (ระยะทาง 650 กม. ใช้เวลาประมาณ 10 ชม. รวมแวะพัก)
เดินทางถึง อ.บึงโขงหลง นำท่านทำธุระส่วนตัว พร้อมรับประทานอาหารเช้า ณ ที่พักชั่วคราว ณ เรือนไทยเกสต์เฮาส์ (1)
เดินทางสู่ จุดลงทะเบียนขึ้นถ้ำนาคา
นำท่านเข้าสู่ขั้นตอนการเดินชมตามจุดท่องเที่ยว ถ้ำนาคา หรือ เรียกอีกชื่อว่า ถ้ำพญานาค เนื่องจากมีซอกหินและผนังถ้ำดูคล้ายพญานาค ที่มีรูปทรงคล้ายพญานาคหรืองูขนาดใหญ่นอนขดตัว โดยมีส่วนสำคัญ ๆ ทั้งส่วนหัว ลำตัว และเกล็ดพญานาค ด้วยเหตุนี้ ถ้ำนาคาจึงมีตำนานเรื่องเล่าเชื่อมโยงกับความเชื่อของถ้ำแห่งนี้ว่า ถ้ำนาคาคือพญานาคหรืองูยักษ์ที่ถูกสาปให้กลายเป็นหิน
รับประทานอาหารกลางวัน
นำท่านเดินทางไปสักการะพญานาคที่ถูกสาป ณ ตำหนักปู่อือลือ แห่งบึงโขงหลง เชื่อว่าเกิดจากการล่มเมืองของพญานาค ซึ่งเกิดจากความรักที่ไม่สมหวังระหว่างพญานาคกับมนุษย์ ทำให้เมืองที่เจริญรุ่งเรืองล่มสลาย บริเวณนี้เดิมเป็นที่ตั้งเมืองชื่อ รัตพานคร มีพระอือลือราชาเป็นผู้ครองนคร พระอือลือราชาถูกพระยานาคราชสาปจนกลายร่างเป็นนาค เฝ้าอยู่ในบึงโขงหลงชั่วนิรันดร์ จนกว่าจะมีเมืองเกิดใหม่ในดินแดนแห่งนี้ จึงจะล้างคำสาปของพระยานาคราชได้
นำท่านเข้าสู่ที่พัก เรือนไทย เกสต์เฮาส์ (พักห้องละ 2 ท่าน)
เก็บสัมภาระ พักผ่อนอิสระตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารเช้า
จากนั้นออกเดินทางสู่ วัดเจติยาศรีวิหาร (วัดภูทอก) อ.ศรีวิไล ภูทอก มี 2 ลูก คือภูทอกใหญ่และภูทอกน้อย ส่วนที่นักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถชมได้ คือ ภูทอกน้อย ภูทอกเป็นภาษาอีสาน แปลว่า ภูเขาโดดเดี่ยว นำท่านเดินเท้าขึ้นสู่ยอดภูมีจุดเด่นในเส้นทาง คือ สะพานไม้และบันไดขึ้นชมทัศนียภาพรอบ ๆ ภูทอก ใช้เพียงแรงงานคนสร้างบันได เวียนไปมา รอบภูทอกแบบ 360 ซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้น ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 5 ปีเต็มจาก ชั้น 1-7 จะมีบันไดไม้ให้เดินแบบตรงทอดยาวจนถึงจุดสูงสุดของยอดภูทอก และตั้งแต่ชั้นที่ 3 เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวสามารถเดินชม แบบสะพานเวียนรอบเขาซึ่งจะได้เห็นมุมมองที่แตกต่างไปเรื่อย ๆ บันไดที่ทอดขึ้นสู่ยอดภูทอกนี้เปรียบเสมือนเส้นทางธรรมที่น้อมนำสัตบุรุษให้พ้นโลกแห่งโลกียะ สู่โลกแห่งโลกุตระหรือโลกแห่งการหลุดพ้นด้วยความเพียร พยายาม มุ่งมั่น
รับประทานอาหารกลางวัน
จากนั้นเดินทางสู่ สวนดอกไม้ตาวัง แลนด์มาร์คแห่งใหม่บนพื้นที่ 10 ไร่ มีทุ่งดอกไม้สด ทั้งดอกคัดเตอร์ขาว ชมพู หรือจะเป็นมุมเช็คอินถ่ายรูปสุดฮิต อาทิ พุ่มไม้ที่มีสีสันสดใส ล็อคแรกสีแดง สีม่วง ซุ้มนั่งรูปหัวใจ และ พระจันทร์ เป็นต้น
เปลี่ยนเป็น รถของชาวบ้านท้องถิ่น ขึ้นภูสิงห์ หินสามวาฬ บึงกาฬ
รถสามารถนั่งได้ถึง 10 คน และจะใช้เวลาในการขับรถขึ้นไปประมาณ 30-40 นาที (เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 05.30-17.00 น)
นำท่านชม หินสามวาฬ โดยมีลักษณะเป็นภูเขาหินทรงมนทอดตัวยาวเรียงกัน 3 ก้อน มองจากทางอากาศจะเห็นคล้ายเป็นวาฬพ่อ แม่ ลูก ว่ายน้ำ
เดินทางสู่ วัดอาฮงศิลาวาส จุดชมสะดือแม่น้ำโขง ลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่จากฝั่งไทยถึงฝั่งลาวที่มีความยาวประมาณร้อยกว่าเมตร พื้นที่ติดกับแม่น้ำโขงเป็นแนวโค้งยาวประกอบกับมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องพญานาค มีความเชื่อกันว่าบริเวณหน้าวัด คือ จุดที่ลึกที่สุดของแม่น้ำโขงซึ่งมีความลึก 200 เมตร บริเวณนี้จะมีน้ำไหลเชี่ยววนจนเป็นหลุมรูปกรวย หากมีพวกเศษไม้ ใบไม้หรือวัตถุเล็กๆ ติดอยู่จะถูกกระแสน้ำหมุนวนเป็นรูปกรวยประมาณ 20-30 นาที แล้วจึงหลุดเคลื่อนไปในที่อื่น เมื่อมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวมาอีกก็จะต่อตัวเป็นรูปกรวยขึ้นมาใหม่เกิดสลับกันไปตลอดทั้งวัน จึงทำให้เชื่อว่าที่นี่คือ จุดที่เป็นสะดือแม่น้ำโขง
นำท่านเข้าสู่ทีพัก โรงแรมเดอะวัน (พักห้องละ 2 ท่าน)
รับประทานอาหารค่ำ
รับประทานอาหารเช้า
ออกเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต ซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านที่เงียบสงบและโอบล้อมด้วยธรรมชาติสวยงาม ... จากนั้นออกเดินทาง อ.โพนพิสัย จากนั้นนำท่านนมัสการ หลวงพ่อพระเสี่ยง ที่ประดิษฐานอยู่ภายใน วัดมณีโคตร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่อจากทองสัมฤทธิ์ เป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่ และพุทธลักษณะงดงามอยู่คู่เมืองโพนพิสัย
นำท่านชม วัดไทยโพนพิสัย ที่เล่าขานตำนานเมืองหลวงของพญานาคแห่งถ้ำพญานาค ซึ่งเชื่อกันว่าอยู่ที่ริมแม่น้ำโขงหน้าวัดไทยแห่งนี้ ชมรูปปั้นพญานาคนาคปรก 9 เศียร “นาคชัยยัญ” และถ้ำเมืองบาดาลจำลอง ภายในแบ่งเป็น ถ้ำจำลอง 7 ห้อง แต่ละห้องแสดงถึงเรื่องราวของเมืองบาดาล เช่น ห้องสมบัติพญานาค จำลองที่เก็บสมบัติใต้บาดาล ห้องอริยสงฆ์ เป็นห้องที่มีหุ่นขี้ผึ้งจำลองอริยสงฆ์ของประเทศไทยเอาไว้ บริเวณทางเดินประดับด้วยจิตกรรมฝาผนัง ที่งดงามเล่าเรื่องราวถึงตำนานของพญานาคและโลกบาดาล
รับประทานอาหารเที่ยง
จากนั้นชม ศาลาแก้วกู่ อุทยานเทวาลัย ของสำนักปฏิบัติธรรมแก้วกู่ ภายในประดิษฐานรูปปั้นคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดใหญ่จำนวนรวมกว่า 200 องค์ สร้างขึ้นโดยปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ ภายใต้แนวคิด "ทุกศาสนาสามารถอยู่รวมกันได้" และให้เป็น "สถานที่แทนภาพดินแดนแห่งการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง" ที่อาคารชั้นบนสุดเป็นที่ตั้งร่างของปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ ที่ไม่เน่าเปื่อยทำให้สร้างความอัศจรรย์แก่ผู้ที่ศรัทธาในตัวท่าน จากนั้นสักการะ พระธาตุหล้าหนองจำลอง ที่สร้างขึ้นแทนองค์เดิมที่จมน้ำโดยบรรจุชิ้นส่วนพระธาตุองค์จริงอยู่ภายในมีความสูงถึง 15 เมตร ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง นำท่านสักการะ “หลวงพ่อพระใส” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองชาวหนองคาย ปัจจุบันประดิษฐาน ณ วัดโพธิ์ชัย พระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะแบบเชียงแสน หล่อด้วยทองสีสุกอร่าม มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่าพระธิดา 3 องค์แห่ง ล้านช้างเป็นผู้สร้าง และขนานนามพระพุทธรูปตามนามของตนเองไว้ด้วยว่า พระเสริม พระสุก พระใส และนำท่าน นมัสการพระธาตุเจดีย์คู่ ณ วัดเทพพลประดิษฐาราม มีโบราณสถานและโบราณวัตถุอายุในสมัยราวพุทธศตวรรษ ที่ 21-22 สมัยวัฒนธรรมล้านช้าง มีธาตุเจดีย์ 2 องค์ มีรูปทรงคล้ายคลึงกันและตั้งอยู่ใกล้เคียง ยังมีเป็นเสมาหินซึ่งเป็นเสาหลักเมืองมีความเชื่อว่าเป็นหลักชัยของเมืองเวียงคำหรือเวียงคุก ปิดท้ายเลือกซื้อของฝากที่ ตลาดท่าเสด็จ
รับประทานอาหารเย็น
นำท่านเข้าสู่ทีพัก โรงแรมรอยัลนครา หนองคาย (พักห้องละ 2 ท่าน)
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ออกเดินทางสู่ อำเภอท่าบ่อ ท่านสักการะพระเจ้าองค์ตื้อ ณ วัดศรีชมพูองค์ตื้อ พระพุทธรูปขนาดใหญ่หล่อด้วยทอง ฝีมือของช่างฝ่ายเหนือและช่างล้านช้าง เป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะงดงามมาก มีหน้าตักกว้าง 3.29 เมตร สูงถึง 4 เมตร จากนั้นนำท่านถ่ายรูปเช็คอิน ณ จุดชมวิวลานพญานาค อ.ศรีเชียงใหม่ แล้วออกเดินทางสู่ วัดหินหมากเป้ง นำท่าน สักการะอัฐิบริขารหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ชมพิพิธภัณฑ์เจดีย์พระราชนิโรธรังสี และปัจจุบันทางวัดได้สร้าง แลนด์มาร์คสกายวอร์ค ใหม่เพื่อเป็นจุดชมวิวของแม่น้ำโขง สมควรแก่เวลาออกเดินทางสู่ อ.สังคม นำท่านชม Sky walk วัดผาตากเสื้อ ซึ่งเป็นทางเดินกระจกใสรูปวงกลมสำหรับชมวิว ของแม่น้ำโขงทั้งฝั่งประเทศไทย และฝั่ง สปป.ลาว เมืองสังข์ทอง ก่อนเดินทางกลับแวะเช็คอิน จุดชมวิวถ่ายรูปอำเภอสังคม
รับประทานอาหารเที่ยง
ออกเดินทางกลับสู่สระบุรี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง)
อิสระอาหารเย็น
ถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ