สำหรับผู้เดินทางไม่ต่ำกว่า 30 ท่าน
ค่าใช้จ่ายท่านละ 21,000 (พักเดี่ยวราคาเริ่มต้น ท่านละ 3,100 บาท)
*********************************************
อัตรานี้รวม
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เส้นทาง “สุวรรณภูมิ – หาดใหญ่ – สุวรรณภูมิ” (รวมน้ำหนักกระเป๋าเดินทาง ท่านละ 20 กก.)
ค่ารถโค้ชปรับอากาศ
ยานพาหนะท้องถิ่นต่าง ๆ ตามโปรแกรม (รถรางชมเมือง/ รถรางเกาะยอ/รถรางสิงหนคร/แพขนานยนต์)
ค่าที่พัก จำนวน 4 คืน พักห้องละ 2-3 ท่าน
ค่าอาหาร จำนวน 15 มื้อ
ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม ผ้าเย็น ตลอดการเดินทาง
ค่าธรรมเนียมการเข้าชมแหล่งท่องเที่ยว / ค่ากิจกรรม / ค่าบำรุงสถานที่ ตามโปรแกรม
ค่าวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ให้ข้อมูลความรู้ และ มัคคุเทศก์ ตลอดจนปราชญ์ ผู้รู้ หรือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองส่วนบุคคล 1,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุสูงสุด 500,000 บาท
อัตรานี้ไม่รวม
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (เฉพาะออกใบกำกับภาษีให้ห้างร้าน บริษัท)
ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ อุทยาน พิพิธภัณฑ์ สำหรับชาวต่างชาติ
ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งนอกรายการ
ค่ามินิบาร์ และอื่นๆ ที่มิได้ระบุในรายการ ฯลฯ
ค่าทิปทีมงาน (อัตราที่เหมาะสม แนะนำไม่ควรต่ำกว่า 400 บาทต่อท่าน)
***เอกสารที่ใช้ประกอบการเดินทาง ***
1. หน้าบัตรประชาชนของผู้เดินทางที่ยังไม่หมดอายุ เพื่อใช้ประกอบการจองตั๋วเครื่องบิน การเข้าเช็คอินที่พัก ตลอดจนการทำประกันอุบัติเหตุ
2. หลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 หากยังไม่ได้ฉีด ต้องแสดงเอกสารผลตรวจโควิด-19 (แบบ RT-PCR) ภายในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชม. ก่อนเดินทาง
3. ท่านที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ขอหลักฐานการตรวจโรค COVID-19 แบบ ATK / RT-PCR ภายในระยะเวลาไม่เกิน 24 ชม. ก่อนเดินทาง
1. กรณีต้องการใช้สิทธิ์ในโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย”
- กำหนด 1 สิทธิ/คน จำนวน 131,415 สิทธิ์ ช่วงขยายระยะเวลาเดินทาง 18 ก.ค.- 31 ต.ค. 2565
- คุณสมบัติ และเงื่อนไขของผู้เข้าร่วมโครงการ มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย/อายุต้ังแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป /ไม่สามารถใช้แพ็คเกจท่องเที่ยวของโครงการทัวร์เที่ยวไทยในช่วงเวลาเดียวกับการเข้าพักโรงแรม / ที่พักของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ได้
- การชำระค่าใช้จ่าย : ลูกค้าได้รับ Notification จากทางผู้ประกอบการนำเที่ยวผ่าน App เป๋าตัง/ ลูกค้ากดใช้สิทธิเพื่อดูรายละเอียดการจองและชำระเงิน
- ลูกค้าชำระผ่าน G Wallet - App เป๋าตัง 60% ของค่าทัวร์ – ส่วนลดรัฐบาลสนับสนุนค่าแพ็คเกจท่องเที่ยว 40% ไม่เกิน 5,000 บาท/สิทธิ์
- หากไม่มีชำระเงินภายในเวลา 23.59 น.ของวันที่ทำการจอง ระบบจะยกเลิกการจองอัตโนมัติ
- วันเดินทางลูกค้าต้องนำมือถือที่ลงทะเบียนใช้สิทธิ์ไว้ มาทำการสแกน QR CODE – Check In บน App เป๋าตัง ณ จุดนัดพบที่กำหนดโดยผู้ประกอบการนำเที่ยว
- บริษัทนำเที่ยวต้องทำการสแกนหน้าบน App ถุงเงินของผู้ประกอบการนำเที่ยวที่จังหวัด Check In และ Check Out
- ชำระค่าใช้จ่ายแล้ว หากไม่ได้มีการเดินทางตามวันที่กำหนด (ไม่มีการเช็คอินและเช็คเอาท์) ระบบจะยกเลิกคูปอง แสดงสถานะหมดอายุ ไม่มีการคืนสิทธิให้กับผู้ใช้ และไม่ได้รับค่าใช้จ่าย 60 % คืนไม่ว่ากรณีใดๆ
- ยกเว้น มีประกาศจากทางรัฐบาลไม่ให้มีการเดินทาง การคืนค่าใช้จ่ายเป็นไปตามราชกิจจานุเบกษา ประกาศคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เรื่องหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดอัตราการจ่ายเงินค่าบริการคืนให้แก่นักท่องเที่ยวพ.ศ. ๒๕๖๓
2. กำหนดการ, สถานที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมโดยมิต้องแจ้งล่วงหน้าทั้งนี้ทีมงานจะถือประโยชน์ของท่านเป็นสำคัญ
3. บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดจาก ภัยธรรมชาติ โรคระบาด โรคติดต่อ ปฏิวัติและอื่นๆที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทางตรงหรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย, การถูกทำร้าย, การสูญหาย, ความล่าช้า หรือจากอุบัติเหตุต่างๆ
4. หากท่านถอนตัวก่อนรายการท่องเที่ยวจะสิ้นสุดลง ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านสละสิทธิ์และจะไม่รับผิดชอบค่าบริการที่ท่านได้ชำระไว้แล้วไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
5. บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อการชำรุดหรือสูญหายของทรัพย์สินส่วนตัว อาทิ เช่น โทรศัพท์มือถือ, กระเป๋าเดินทาง, กระเป๋าสตางค์, กล้องถ่ายรูป ฯลฯ
6. กรณีไม่ได้ร่วมโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” หลังลงชื่อจอง 1 วัน (หรือตามที่เจ้าหน้าที่แจ้งให้ท่านทราบ) ท่านที่ชำระเงินสด รบกวนท่านต้องยืนยันการจองโดยชำระมัดจำท่านละ 5,000 บาท หรือกรณี ชำระผ่านบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ รบกวนท่านกรอกเอกสารตัดบัตร ยอดค่าใช้จ่ายเต็มจำนวน ส่งเอกสารกลับมายังบริษัทแล้วรอแจ้งกลับถึงผลการอนุมัติโปรโมชั่น การจองจึงจะสมบูรณ์และเลือกที่นั่งบนรถได้ หากพ้นจากวันเวลาที่กำหนด ขออนุญาตตัดสิทธิ์การจองโดยอัตโนมัติและเมื่อท่านชำระค่าใช้จ่ายหรือส่งเอกสารตัดบัตรแล้วท่านไม่สามารถยกเลิกการเดินทางเพื่อคืนค่าใช้จ่าย แต่สามารถให้ท่านอื่นเดินทางแทนได้
7. รูปแบบห้องพัก / ที่นั่งบนรถ จัดให้ตามลำดับการชำระค่าใช้จ่าย
8. กรุณาพิจารณาอ่านโปรแกรมโดยละเอียด เมื่อท่านได้ทำการยืนยันจองทัวร์กับบริษัทฯ แล้ว ถือว่าท่านเข้าใจและรับทราบข้อมูลต่างๆ ยอมรับในเงื่อนไขต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น
ชมเมืองท่า Singora สู่ สงขลา.... มนต์เสน่ห์แห่ง “ เมือง 2 เล 3 น้ำ 3 วัฒนธรรม”
********************************************************
บ.เพื่อนธรรมชาติ...เชิญท่านร่วมเดินทาง เที่ยวแบบเจาะลึก ณ เมืองท่าแห่งลากูนหนึ่งเดียวในประเทศไทย
- ฟังเรื่องเล่า ใน 3 ยุค "จากเมืองท่า Singora สู่ Songkhla"
ทอดน่องเดินชมอาคารบ้านเรือนสุดคลาสสิก ตามหาภาพย้อนเวลาสู่อดีตกับ Street Art ณ ย่านดังแถบถนนนครนอก นครใน และถนนนางงาม
- ข้ามสะพานติณสูลานนท์ สู่เกาะยอ ชมวิถีชีวิต ของผู้คนลุ่มน้ำทะเลสาบ
- เยี่ยมเยือน“สงขลายุคเขาแดง และ สงขลายุคแหลมสน” อ.สิงหนคร
ชิม ช้อปอาหารคาวหวานอันหลากหลายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว...ชิมเมนูท้องถิ่นของกินต้องห้ามพลาด
! ! ทริปนี้เหล่านักท่องเที่ยว ผู้นิยมเก็บเกี่ยวประสบการณ์จึงพลาดไม่ได้ค่ะ ! !
**ค่าเบ็ดเตล็ด / ท่าน**
1.ค่าตั๋วเครื่องบินทีมงาน (@4580X 3ท่าน =13,740) = 458 บาท
2.ค่าวิทยากร 1 ท่าน (วันละ 2,500 บาท จำนวน 5 วัน = 12,500) = 416 บาท
3.ค่าไกด์ 2 ท่าน (วันละ 1,500 บาท จำนวน 5 วัน = 15,000) = 500 บาท
4.ค่าที่พักวิทยากร+ทีมงาน (1,350 x2 ห้อง x4 คืน =10,800) = 360 บาท
5.สำนักงาน+เอกสารแจก+ป้ายไวนิล+ป้ายบัส = 150 บาท
6. อุปกรณ์ covid = 50 บาท
7.ประกันการเดินทาง = 29 บาท
8.VAT 7% = 1,208 บาท
9.ของว่าง+น้ำดื่ม/กาแฟ -เครื่องดื่ม = 250 บาท
10.เบ็ดเตล็ด+ทิป+อาหารทีมงาน = 250 บาท
รวม = 3,671 บาท
0
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ลงประตู 2 เคาน์เตอร์เช็คอิน ไทยสมายด์ พบทีมงานรออำนวยความสะดวกด้านสัมภาระ มอบเอกสารการเดินทาง...แจ้งย้ำเรื่องการปฏิบัติตัวในการเดินทางเพื่อป้องกันตนเอง
**สเปรย์แอลกอฮอล์แก่ทุกท่าน **
(กรุณาอย่าลืม บัตรประชาชนนะคะ)
ทีมงานเพื่อนธรรมชาติ มอบอาหารเช้าแบบสะดวกทานแก่ทุกท่านค่ะ
ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ จ.สงขลา โดยสายการบิน ไทยสมายด์ เที่ยวบินที่ WE 259
คณะเดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ เชิญทุกท่านรับสัมภาระ และจัดการภารกิจส่วนตัว
รถบัสท้องถิ่น รับคณะเดินทางสู่ อ.เมือง จ.สงขลา (ระยะทางประมาณ 45 กม. /1 ชม.)
คณะเดินทางถึง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จ.สงขลา
อาคารโบราณอายุกว่า 140 ปี เดิมเป็นคฤหาสน์ของ พระยาสุนทรานุรักษ์ (เนตร์ ณ สงขลา) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2421 มีความสวยงาม โอ่โถง ลักษณะทางสถาปัตยกรรมเป็นอาคารตามแบบสถาปัตยกรรมจีนผสมยุโรป สร้างเป็นตึกก่ออิฐ สอปูน 2 ชั้น บ้านหันหน้าไปทางทิศตะวันตก-ซึ่งคือทะเลสาบสงขลา ลักษณะตัวบ้านยกสูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร ปลูกเป็นเรือนหมู่ 4 หลัง เชื่อมติดกันด้วยระเบียงทางเดิน มีบันไดขึ้น 2 ทาง คือ ด้านหน้าและตรงกลาง มีลานด้านใน
**รวมค่าเข้าสถานที่ และ ค่าวิทยากรท้องถิ่น **
เดินเท้าเลี้ยวซ้ายไปตาม “ถนนจะนะ”ตัดผ่าน “ถนนไทรบุรี” ประมาณ 300 เมตร ท่านก็จะถึงพิพิธภัณฑ์พธำมะรงค์ แต่ระหว่างทางท่านจะผ่านโบราณสถาน กำแพงเมืองเก่าสงขลา(อยู่ด้านขวามือ)
จากนั้น ........ นำคณะเข้าชม พิพิธภัณฑ์พธำมะรงค์ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสงขลา จัดสร้างขึ้นโดยกรมราชทัณฑ์ในสมัยของนายสนิท รุจิณรงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ในขณะนั้น ซึ่งเป็นสถานที่ตั้ง บ้านพักเดิมของ รองอำมาตย์โท ขุนวินิจทัณฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์) บิดาของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ พิพิธภัณฑ์ฯ เป็นสถาปัตยกรรมแบบเรือนไทยที่สร้างขึ้นเพื่อจำลองสถานที่เกิดของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี และ รัฐบุรุษซึ่งเป็นชาวจังหวัดสงขลา จากคำบอกเล่าความทรงจำในอดีตสมัยที่บิดาของท่านดำรงตำแหน่งพัสดีเรือนจำสงขลา “พะทำมะรง” เป็นตำแหน่งเก่าของข้าราชการกรมราชทัณฑ์ ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรี
**รวมค่าบำรุงสถานที่ และ ค่าเจ้าหน้าที่นำชม **
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านนายหวาน
หลังอาหารนำคณะเดินทางเข้าผ่อนคลายอิริยาบถที่ที่พัก ณ โรงแรมสงขลาแต่แรก แอนทีคโฮเต็ล
โรงแรมพิพิธภัณฑ์แห่งแรกของเมืองสงขลาเป็นโรงแรมสไตล์พิพิธภัณฑ์ของสะสมที่ทรงคุณค่า ตกแต่งแบบผสมผสานศิลปะ ทั้งแบบจีนดั้งเดิม และ ศิลปะแนวใหม่
เปลี่ยนยานพาหนะเป็น รถราง รับคณะไป “นั่งรถชมเมือง เล่าเรื่องสงขลา” ย่านเมืองเก่าแห่งนี้มีถนนที่สำคัญด้วยกัน 3 สาย คือ ถนนนครนอก ถนนนครใน และ ถนนนางงาม ภาพอดีตอันรุ่งเรืองของสงขลาถูกฉายชัด ผ่านสถาปัตยกรรรมที่ซ่อนซุกอยู่ในตึกรามบ้านช่อง
นำท่านแวะชมตามสถานที่ต่างๆ
- ประตูเมืองเก่าสงขลา
- บ้านสงครามโลก ครั้งที่ 2
- ท่าน้ำศักดิ์สิทพิทักษ์
- โรงสีแดง-หับ โห้ หิ้น "สวนสมานฉันท์อันเจริญรุ่งเรือง"
- พิพิธภัณฑ์บ้านนครใน/บ้านจีน 300 ปี
- ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
- ประติมากรรมพญานาคพ่นน้ำ หรือ หัวพญานาค
- รูปปั้นนางเงือกทอง
** รวมค่ารถราง พร้อมเจ้าหน้าที่นำชม / ค่าเข้าชม /มอบบำรุงสถานที่ **
รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านเจ๊นิ ตำนานร้านเก่าแก่ 60 ปี
เมนูดังข้าวต้มปลากะพง หมี่ซั่วปลากะพง หมี่ซั่วกระดูกหมู ฯ 1 ในร้านดังของเมืองสงขลา
รับประทานอาหารเช้าที่ ร้านเจ๊นิ
Check out รถบัสรับคณะเดินทางสู่ เขาตังกวน
เขาตังกวน สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.สงขลา
ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์เพราะมี ป้อมปืนใหญ่ เขาตังกวนเป็นเนินเขาสูง 609 เมตรจากระดับน้ำทะเล จากบน
ยอดเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองสงขลาได้โดยรอบ
การขึ้นชมด้านบนสามารถเดินขึ้นทางบันไดนาค จำนวน 145 ขั้น แต่เราขอนำคณะ ขึ้นลิฟต์ (เปิด 08.30 – 18.00 น.)
** รวมค่าลิฟต์/ค่าบำรุงสถานที่ **
วัดมัชฌิมาวาสวรวิหาร “วัดกลาง” เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองสงขลามากว่า 200 ปี สร้างมาตั้งแต่สร้างมาในสมัยอยุธยาตอนปลาย มีปรากฏหลักฐานแน่ชัดในช่วงรัชสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. 2338–2342) เจ้าพระยาอินทคีรี (บุญหุ้ย) ผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลา (แหลมสน) ได้บูรณะปฏิสังขรณ์วัดนี้
** มอบบำรุงสถานที่ **
รับประทานอาหารกลางวัน ร้านแต้เฮี้ยงอิ๊ว
ร้านเก่าแก่เปิดขายมายาวนานกว่า 84 ปีแล้ว พร้อมทานไอศครีมร้านขึ้นชื่อย่านถนนนางงาม
รอลงแพข้ามทะเลสาบสงขลาตอนล่างย้อนอดีตให้คิดถึงกาลก่อนสู่ถิ่นฐานแรกเริ่ม เมืองสงขลาหัวเขาแดง
อ.สิงหนคร จ.สงขลา
(ระยะทางประมาณ 700 เมตร ใช้เวลาอยู่บนแพประมาณ 10 นาที)
จากนั้น รถบัสรับคณะ ออกเดินทางต่อประมาณ 1 กม. เพื่อไปยังจุดเริ่มเดินเท้าขึ้นเขา ชมบริเวณ "ยอดเขาแดง"
สถานที่ที่ยังคงปรากฏหลักฐานทางโบราณคดีที่ยังหลงเหลืออยู่ นอกจากวัดวาอารามแล้ว สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ป้อมปราการต่างๆ ทั้งที่อยู่บนเขาแดงและที่ยังเหลือไว้ให้ได้ชม
**รวมค่ารถราง/ค่าบำรุงสถานที่**
รับประทานอาหารค่ำที่ ร้านอาหารศิรดา เกาะยอ
นำคณะเข้าเช็คอินที่พัก โรงแรมลากูน่าแกรนด์ แอนด์ สปาสงขลา เชิญท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย ฝันดีราตรีสวัสดิ์
รับประทานอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
รถบัสท้องถิ่น รับคณะ ออกเดินทางไปยังเกาะยอ
เปลี่ยนภาหนะเป็นรถราง เยือนสถานที่สำคัญแบบเจาะลึกบนเกาะยอ
-วัดแหลมพ้อ
-กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรทอผ้า เกาะยอ
-สวนลุงวี ชิมจำปาดะ ดูสาธิตการสานโคระ ชิมอาหารพื้นถิ่นรสเลิศ “ยำสาหร่ายผมนาง”
** รวมค่ารถราง/ค่าวิทยากรท้องถิ่น/ค่าบำรุงสถานที่ **
รับประทานอาหารกลางวัน ลิ้มรสเมนูพื้นถิ่น รับกลิ่นอายทะเลสาบสงขลา ที่ร้าน เกาะยอเดอ ลากูน
หลังมื้ออาหาร นำทุกท่านนั่งรถราง ไปยังสถานที่ถัดไป
-สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 (สงขลา)
-ชมการเลี้ยงปลากระพงขาว ณ ยอ คู่โฮมสเตย์
-จิบชากาแฟ ชมวิวเกาะยอ ณ ร้านซินยอริสต้า คาเฟ่ & บาร์
-วัดท้ายยอ
** รวมค่ารถราง/ค่าวิทยากรท้องถิ่น/ค่าบำรุงสถานที่ **
รับประทานอาหารค่ำ ชมวิวเกาะยอ แบบใกล้ชิด ณ ร้านอาหารชมจันทร์ ซีฟู้ด เกาะยอ
หลังมื้ออาหารนำคณะเข้าสู่ที่พัก โรงแรมลากูน่าแกรนด์ แอนด์ สปา สงขลา
เชิญทุกท่านผ่อนตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารเช้า ห้องอาหารของโรงแรม
รถบัสท้องถิ่น รับคณะ เดินทางข้ามสะพานติณสูลานนท์อีกครั้ง เพื่อกลับไปยังฝั่ง อ.สิงหนคร จ.สงขลา
ไปเยี่ยมเยือน“สงขลายุคเขาแดง และ สงขลายุคแหลมสน” บริเวณ ต.หัวเขา,ต.สทิงหม้อ อ.สิงหนคร พื้นที่ที่เคยเป็นเมืองสงขลามาก่อน (ประมาณ พ.ศ.2101 - 2375)
วัดเขาน้อย เป็นวัดเก่าแก่มาแต่โบราณ ยุคพุทธศาสนามหายานแห่งศรีวิชัย วัดเก่าแก่วัดเดียวที่อยู่บริเวณเมืองสงขลาเก่า ฝั่งเขาแดงได้กลายเป็นวัดร้างไประยะหนึ่ง และได้รับการบูรณะพัฒนาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2486 มีปูชนียสถานและปูชะนีวัตถุที่สำคัญ
- เจดีย์วัดเขาน้อย นำคณะขึ้นไปชมหลักฐานที่ผ่านกาลเวลา ที่แสดงให้เห็นว่าถิ่นฐานย่านนี้มีความเป็นมาแต่ครั้งเก่ากาลเป็นวัดแต่โบราณยุคพุทธศาสนามหายานแห่งศรีวิชัย
** มอบบำรุงสถานที่ **
นำคณะนั่งรถราง (ประมาณ 400 ม.) ไปชมป้อมปืนใหญ่ - ป้อมโบราณหมายเลข 9
“ป้อมโบราณ เมืองสิงขระ หรือ ป้อมหมายเลข 9” ลักษณะผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 9.60เมตร ยาว 10.20 เมตรสูง 5 เมตร มีใบบังทั้งสี่ด้าน ลักษณะของป้อมจะก่อด้วยอิฐและหินสอปูน วางหินทับซ้อนกันดูแข็งแรงมาก สะท้อนให้เห็นถึงอดีตของเมืองสงขลาได้เป็นอย่างดี แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของเมืองสงขลาฝั่งแหลมสน สะท้อนผ่านการสร้างป้อมปราการขนาดใหญ่ และการสร้างท่าเทียบเรือในบริเวณนี้ ที่ทำให้พออนุมานได้ว่า สงขลาคือหนึ่งในเมืองท่าที่สำคัญต่อโลกแห่งหนึ่งก็ว่าได้
** รวมค่ารถราง/ค่าวิทยากรท้องถิ่น/ค่าบำรุงสถานที่ **
นำคณะเดินทางต่อไปยัง สุสานมรหุ่ม หรือสุสานสุลต่านสุลัยมาน ชาห์ (ระยะทางประมาณ 3.5 กม. / 10 นาที)
จากริมถนน สงขลา-ระโนด ห่างหัวเขาแดงไปทางทิศเหนือประมาณ 1.7 กม. มีอาคารโบราณ ชาวบ้านเรียกว่า “ทวดหุ่ม” เป็นที่ฝังพระศพสุลต่านสุไลมานซาห์ เจ้าเมืองสงขลาในยุครุ่งเรืองสูงสุดตั้งอยู่ ชาวบ้านเข้าใจว่าเป็นกุโบร์ของผุ้ที่ชื่อว่ามะระหุม แต่คำว่า“มรหุ่ม” คือ ที่ฝังพระศพเจ้านายที่เป็นมุสลิมไม่ใช่ชื่อคน
ซุ้มประตูบ่อเก๋ง หรือ นิยมเรียกสั้น ๆ ว่า "บ่อเก๋ง" โบราณสถานที่มีอายุกว่า 150 ปี ตั้งอยู่บริเวณตำบลเขาแดง
ซึ่งต่อมาทางกรมศิลปากรประกาศขึ้นเป็น "โบราณสถานของชาติ" เมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ.2542
จากนั้นนำชม "สุสานริมทาง J.V LARSEN" (เดินประมาณ 130 ม.) ที่ตั้งอยู่ริมถนนบริเวณซุ้มประตูบ่อเก๋ง
หลุมศพชาวคริสต์มีสลักบนแท่นที่ระลึกเป็นภาษาเดนมาร์ก Her Hviler = พักที่นี่ , Maskinmester = วิศวกร, “J.V LARSEN” = ชื่อ สรุปแท่นหินนี้ คือ สัญลักษณ์ป้ายหลุมศพของวิศวกร ชื่อ “J.V LARSEN” โดยชายคนนี้เกิดในปี ค.ศ.1875 ณ ประเทศเดนมาร์ก และมาเสียชีวิตที่ "Singora" ชื่อเมืองสงขลา (เดิม) ในปี ค.ศ.1909 (พ.ศ.2418-2452)
รับประทานอาหารกลางวัน ร้านธนาคารปู
(หากช่วงเวลาเหมาะสมจะร่วมปล่อยพันธุ์ปู คืนสู่ธรรมชาติกันค่ะ)
- วัดสุวรรณคีรี หรือ “วัดออก” เป็นวัดที่ใช้ทำพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา อธิษฐานของข้าราชการเมืองสงขลา ได้รับการบูรณะให้เป็นวัดสำคัญประจำเมืองสงขลาฝั่งแหลมสน ด้านในพระอุโบสถ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นภาพเขียนสีที่มีความสวยงาม มีหอระฆังตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของอุโบสถ เจดีย์หินแบบจีน (ถะ) ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของอุโบสถและซุ้มใบเสมาสร้างด้วยหินแกรนิต ลักษณะศิลปะจีนตกแต่งด้วยลายปูนปั้นรูปดอกไม้สวยงาม
- รถรางรับคณะไปประมาณ 550 ม. สู่ "วัดบ่อทรัพย์" เป็นวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งในสมัยที่เมืองสงขลา โบราณสถานภายในวัดประกอบด้วยพระอุโบสถ กุฏิไม้โบราณ บัวเก็บกระดูกและบ่อน้ำพื้นเมือง กรุอิฐขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้าวัด เรียกว่า “บ่อซับ” ในอดีตบ่อซับเป็นที่เลื่องลือในการรักษาโรค คือเอาน้ำไปดื่มกินและอาบเพื่อรักษาโรคก็จะหายจากโรคร้าย ชาวบ้านในละแวกนี้มีทั้งนับถือศาสนาพุทธและอิสลามจะพากันมาตักน้ำไปใช้อุปโภค บริโภค
- ห่างออกไปเพียง 150 ม. นำท่านเข้าชม "วัดศิริวรรณาวาส" โบราณสถานที่เคยร้าง สันนิษฐานว่าสร้างหรือบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น โบราณสถานที่สำคัญภายในวัดได้แก่ พระอุโบสถซึ่งมีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบพื้นเมืองภาคใต้ที่มีความงดงาม เสมาหิน กำแพงแก้วและซุ้มประตูแบบจีน หอระฆัง และกำแพงกันดิน ปัจจุบันมีพระดูแล
** มอบบำรุงสถานที่ **
รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านศิรดา
นำคณะเข้าสู่ที่พัก โรงแรมลากูน่าแกรนด์ แอนด์ สปา สงขลา
เชิญทุกท่านผ่อนตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารเช้า ห้องอาหารของโรงแรม
Check out รถบัสท้องถิ่นรับคณะ ข้ามสะพานติณสูลานนท์ (ช่วงที่ 2) กลับไปยัง อ.สิงหนคร จ.สงขลา กันอีกครั้ง
คณะเดินทางถึง สวนมะม่วงเบาของคุณ “ประทีป จันทโร” ณ หมู่ 5 ต.สทิงหม้อ อ.สิงหนคร
มะม่วงเบามีต้นกำเนิดใน อ.สิงหนคร จ.สงขลา พบต้นที่มีอายุมากที่สุดกว่า 100 ปี มีลูกดกแถมออกตลอดทั้งปี
ด้วยสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ที่ภูมิประเทศติดทะเลฝั่งทะเลสาบสงขลาทำให้ดินมีแร่ธาตุสมบูรณ์ มะม่วงจึงมีรสชาติดี แตกต่างมะม่วงที่ได้จากการนำไปปลูกในพื้นที่อื่นๆ
ชมสวนแล้วต้องไปดูการแปรรูปกันต่อค่ะ
นำท่านเดินเท้าไปอีกนิด ไปชมการสาธิตและเลือกซื้อมะม่วงเบาที่
"กลุ่มมวิสาหกิจแปรรูปผลิตภัณฑ์มะม่วงเบาบ้านนาออก" ภายใต้ แบรนด์ “ป้าติ้วแมงโก้” แหล่งผลผลิตมะม่วงเบาแช่อิ่มของอร่อยยอดฮิตจากสงขลา ที่ไม่ว่าใครมาเยือน ก็ต้องพากันซื้อกลับ
** รวมค่าเจ้าหน้าที่นำชม / ค่าบำรุงสถานที่ **
รับประทานอาหารกลางวันที่ ร้านต้าเหยิน เบตง
“ เขาคอหงส์ ”เทือกเขาและผืนป่าใหญ่แห่งเมืองหาดใหญ่ เป็นเสมือนปอดฟอกอากาศและมลพิษให้แก่ชาวเมืองหาดใหญ่มาเป็นเวลายาวนาน
- ระหว่างทางขึ้นยอดเขา นำทุกท่านแวะสักการะ "พระโพธิสัตว์กวนอิม หรือ เจ้าแม่กวนอิม"
จากนั้นนำท่านสักการะ "พระพุทธมงคลมหาราช" พระพุทธรูปประจำนครหาดใหญ่
** รวมค่ารถท้องถิ่น / ค่าบำรุงสถานที่**
เชิญทุกท่าน เลือกชม เลือกช้อป สินค้า ณ ตลาดกิมหยง / ผ้าปะเต๊ะ PK Thailand / ร้านผ้าชัย
จากนั้น นำคณะเดินทางประมาณ 1 ก.ม. ไปชม 8 ตึกสีลูกกวาด ตึกโบราณสไตล์ชิโนโปรตุกิส บน ถนนนิพัทธ์อุทิศ1 ค่ะ
** พร้อมบริการอาหารเย็นแบบสะดวกทานแก่ทุกท่านค่ะ **
คณะเดินทางถึงสนามบินหาดใหญ่ ให้เวลาท่านได้เลือกซื้อของฝากที่สนามบินและทำการโหลดสัมภาระ
เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร โดย สายการบินไทยสไมล์ (WE) เที่ยวบินที่ WE 268
คณะเดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมรอยยิ้มและความประทับใจ